เป็นเรื่องธรรมดาของสังคมประชาธิปไตย ที่เมื่อมีคนๆหนึ่งลุกขึ้นมา จะทำอะไรใหม่ๆหรือเปลี่ยนแปลงบางสิ่งบางอย่าง ก็ต้องมีคนเห็นด้วย
และไม่เห็นด้วย ซึ่งอันนี้ก็ไม่แปลก เพราะทุกคนมีสิทธิที่จะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย แต่บางครั้ง การให้เหตุผลของคนที่ไม่เห็นด้วย
มันก็หลงประเด็นไปเยอะนะ เช่น....
1. มีหมอหรือพวกนักเคลื่อนไหวทางการเมืองบางคน ออกมาพูดว่า การวิ่งของพี่ตูน ไม่สามารถแก้ไขปัญหาระบบสาธารณสุขของไทยได้
เอิ่มมม.....ไม่รู้ว่าคนเหล่านี้ติดตามข่าวสารแบบไหน ถึงได้ข้อมูลมาผิดๆ
พี่ตูนเค้าไม่เคยพูดนะครับ ว่าการวิ่งครั้งนี้ เพื่อวิ่งจะแก้ไขปัญหาของระบบสาธารณสุขไทย
ไปอ่านดูใหม่ละกัน วัตถุประสงค์ของการวิ่งครั้งนี้คือ......." วิ่งหาเงินช่วยเหลือให้ 11 โรงพยาบาล " แค่นั้นเอง
ส่วนปัญหาของระบบสาธารณสุข มันเป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่จะต้องแก้ ไม่ใช่พี่ตูน เข้าใจซะใหม่นะ
2. บางคนก็ออกมาพูดว่า เงินส่วนนี้ ทำไมไม่ไปขอจากรัฐบาล ให้รัฐบาลเจียดงบซื้ออาวุธมาช่วยส่วนนี้แทนดีกว่าไม๊....
เอิ่มมม..... เรื่องเชิงนโยบายแบบนี้ ถามจริงๆ มันเป็นหน้าที่ของพี่ตูนเหรอ? ทำไมพวกหมอหรือพวกนักเคลื่อนไหวทางการเมือง
ไม่รวมตัวกันออกมาพูด ออกมาผลักดันล่ะ ก็เพราะไม่มีใครหน้าไหนกล้าออกมาทำยังไงล่ะ บ้านเมืองถึงต้องการคนอย่างพี่ตูน
ที่กล้าที่จะออกมาทำอะไรบ้าง ดีกว่าพวกติอย่างเดียวแต่ไม่เห็นทำอะไร
3. บางคนก็ออกมาพูดว่า กระทรวงสาธารณสุขปีนึได้งบประมาณตั้งเยอะ ทำไมไม่เจียดเงินมาช่วยเหลือ
อันนี้ต้องทำความเข้าใจเรื่องงบประมาณกันใหม่นะ โดยปกติแล้ว งบประมาณจะตั้งกันปีต่อปี
ก็เหมือนเค้กก้อนหนึ่ง ที่แบ่งไว้ตั้งแต่ตอนแรกแล้วว่าจะใช้อะไรบ้าง เปรียบเทียบง่ายๆเหมือนเค้กหนึ่งก้อน
ตัดแบ่งให้คนสิบคน แต่พอมีคนที่ 11, 12 มาเพิ่ม แต่เจ้าของเค้กคนเดิมไม่ยอมแบ่งให้ ก็ต้องไปหาตังค์ไปซื้อเค้กชิ้นใหม่
ซึ่งพี่ตูนก็คือคนออกมาระดมเงินเพื่อไปซื้อเค้กก้อนใหม่นั่นเอง
4. บางคนก็พูดว่า เงินแค่นี้จะไปยากอะไร ก็ของบใหม่สิ
ถ้าจะของบใหม่ ก็ต้องรองบประมาณปีหน้า ซึ่งการเจ็บป่วยของคนมันรอได้ซะที่ไหน
ยิ่งได้เครื่องมือแพทย์มาเร็ว โรงพยาบาลก็จะช่วยชีวิตคนได้เร็วและช่วยได้มากขึ้นตามไปด้วย
5. สุดท้าย บางคนก็ออกมาสรุปห้วนๆว่า กุจะไม่ให้สักบาท เพราะไม่คิดว่าจะช่วยอะไรได้
.....จ่ะ เรื่องของเมิง ไม่พูดก็ไม่มีใครว่าอะไรนะ อยู่เงียบๆจะดูฉลาดกว่า
คนที่ออกมาพูดว่า การวิ่งของพี่ตูน แก้ปัญหาไม่ได้ ผมว่าคนพวกนี้แหล่ะ ที่หลงประเด็นและไม่เข้าใจ
และไม่เห็นด้วย ซึ่งอันนี้ก็ไม่แปลก เพราะทุกคนมีสิทธิที่จะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย แต่บางครั้ง การให้เหตุผลของคนที่ไม่เห็นด้วย
มันก็หลงประเด็นไปเยอะนะ เช่น....
1. มีหมอหรือพวกนักเคลื่อนไหวทางการเมืองบางคน ออกมาพูดว่า การวิ่งของพี่ตูน ไม่สามารถแก้ไขปัญหาระบบสาธารณสุขของไทยได้
เอิ่มมม.....ไม่รู้ว่าคนเหล่านี้ติดตามข่าวสารแบบไหน ถึงได้ข้อมูลมาผิดๆ
พี่ตูนเค้าไม่เคยพูดนะครับ ว่าการวิ่งครั้งนี้ เพื่อวิ่งจะแก้ไขปัญหาของระบบสาธารณสุขไทย
ไปอ่านดูใหม่ละกัน วัตถุประสงค์ของการวิ่งครั้งนี้คือ......." วิ่งหาเงินช่วยเหลือให้ 11 โรงพยาบาล " แค่นั้นเอง
ส่วนปัญหาของระบบสาธารณสุข มันเป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่จะต้องแก้ ไม่ใช่พี่ตูน เข้าใจซะใหม่นะ
2. บางคนก็ออกมาพูดว่า เงินส่วนนี้ ทำไมไม่ไปขอจากรัฐบาล ให้รัฐบาลเจียดงบซื้ออาวุธมาช่วยส่วนนี้แทนดีกว่าไม๊....
เอิ่มมม..... เรื่องเชิงนโยบายแบบนี้ ถามจริงๆ มันเป็นหน้าที่ของพี่ตูนเหรอ? ทำไมพวกหมอหรือพวกนักเคลื่อนไหวทางการเมือง
ไม่รวมตัวกันออกมาพูด ออกมาผลักดันล่ะ ก็เพราะไม่มีใครหน้าไหนกล้าออกมาทำยังไงล่ะ บ้านเมืองถึงต้องการคนอย่างพี่ตูน
ที่กล้าที่จะออกมาทำอะไรบ้าง ดีกว่าพวกติอย่างเดียวแต่ไม่เห็นทำอะไร
3. บางคนก็ออกมาพูดว่า กระทรวงสาธารณสุขปีนึได้งบประมาณตั้งเยอะ ทำไมไม่เจียดเงินมาช่วยเหลือ
อันนี้ต้องทำความเข้าใจเรื่องงบประมาณกันใหม่นะ โดยปกติแล้ว งบประมาณจะตั้งกันปีต่อปี
ก็เหมือนเค้กก้อนหนึ่ง ที่แบ่งไว้ตั้งแต่ตอนแรกแล้วว่าจะใช้อะไรบ้าง เปรียบเทียบง่ายๆเหมือนเค้กหนึ่งก้อน
ตัดแบ่งให้คนสิบคน แต่พอมีคนที่ 11, 12 มาเพิ่ม แต่เจ้าของเค้กคนเดิมไม่ยอมแบ่งให้ ก็ต้องไปหาตังค์ไปซื้อเค้กชิ้นใหม่
ซึ่งพี่ตูนก็คือคนออกมาระดมเงินเพื่อไปซื้อเค้กก้อนใหม่นั่นเอง
4. บางคนก็พูดว่า เงินแค่นี้จะไปยากอะไร ก็ของบใหม่สิ
ถ้าจะของบใหม่ ก็ต้องรองบประมาณปีหน้า ซึ่งการเจ็บป่วยของคนมันรอได้ซะที่ไหน
ยิ่งได้เครื่องมือแพทย์มาเร็ว โรงพยาบาลก็จะช่วยชีวิตคนได้เร็วและช่วยได้มากขึ้นตามไปด้วย
5. สุดท้าย บางคนก็ออกมาสรุปห้วนๆว่า กุจะไม่ให้สักบาท เพราะไม่คิดว่าจะช่วยอะไรได้
.....จ่ะ เรื่องของเมิง ไม่พูดก็ไม่มีใครว่าอะไรนะ อยู่เงียบๆจะดูฉลาดกว่า